ประกาศความเป็นส่วนตัว
ประกาศความเป็นส่วนตัว
ฉบับวันที่ 1 มิถุนายน 2565
1.คำนิยาม
บริษัทฯ ตระหนักและให้ความสำคัญกับการเก็บรวบรวม และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ อย่างไรก็ดี เนื่องจากการดำเนินงานของบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของผู้ใช้บริการ ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ปฎิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล( ในบางกรณี) โดยบริษัทฯ ขอยืนยันว่า
- บริษัทฯ จะใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ อย่างถูกต้อง และภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- บริษัทฯ สนับสนุนให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
- บริษัทฯ มีระบบรักษาความปลอดภัยและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่คุ้มครองและให้ความปลอดภัยกับความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
- บริษัทฯ จะจัดทำระบบ และใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ
ด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินการที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ อาทิ การใช้ การรวบรวม การจัดเก็บ การเปิดเผย การรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จึงแจ้งนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
หากมิได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในนโยบายฉบับนี้ ให้ถ้อยคำต่อไปนี้ให้มีความหมายตามที่ระบุไว้ข้างท้ายนี้
- “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือฉบับอื่นที่อาจมีการแก้ไขในภายหลัง รวมถึงพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศ คำสั่ง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมและข้อมูลนิรนามที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ อาทิเช่น ชื่อ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ ข้อมูลออนไลน์ ฯ
- “คุ๊กกี้ (Cookies)” หมายถึง ข้อความขนาดเล็กที่ประกอบด้วยส่วนของข้อมูลที่มาจากการดาวน์โหลดที่อาจถูกเก็บบันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเข้าใช้งาน และข้อมูลดังกล่าวอาจถูกบันทึกลงในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารที่ท่านเข้าใช้งาน ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเลือกใช้ในขณะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ
- “บริษัท” หมายถึง บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน)
- “กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ” หมายถึง นิติบุคคลที่บริษัทฯ มีการควบคุมและบริหารจัดการโดยผู้ถือหุ้นของ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน)
- “พันธมิตรของบริษัท” หมายถึง นิติบุคคลนอกกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีการทำข้อตกลงร่วมกันในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิดิบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ใช้บริการ” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งได้รับการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์จากบริษัทฯ ไม่ว่ารูปแบบใดๆ รวมถึง ลูกค้า ผู้รับเหมา ตัวแทน ผู้เช่า พนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร หรือ ผู้แทนของผู้ใช้บริการ
2.ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่าน
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบริษัทฯได้รับข้อมูลทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ทางอิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร การสอบถามหน่วยงานราชการ พันธมิตรของบริษัทฯ และ/หรือ ผู้ให้บริการอื่น เช่น Facebook Instagram และ Line เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาทิเช่น
- ข้อมูลส่วนตัวและความสนใจของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ วันเกิด สถานภาพสมรส ที่อยู่ อาชีพ สถานที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ Email หมายเลขโทรศัพท์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรเครดิต หมายเลขบัญชีธนาคาร รายได้ส่วนบุคคลต่อเดือน ข้อมูลการชำระเงิน รายการการสั่งซื้อ เป็นต้น
- ข้อมูลรูปภาพที่สามารถระบุตัวตนได้ ได้แก่ ข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่าน และ/หรือทรัพย์สินของท่านที่บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมได้จากกล้องวงจรปิด (CCTV) กล้องถ่ายภาพเมื่อมีการเข้าถึงพื้นที่ภายในอาคารสำนักงานหรือสถานที่ที่อยู่ในความดูแล ของบริษัท และภาพถ่ายในงานกิจกรรมต่างๆ งานประชุม อบรมสัมมนาต่าง ๆ ที่บริษัทฯ จัดขึ้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น ในกรณี ที่บริษัทฯได้รับข้อมูลอ่อนไหวของท่านมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน บริษัทฯจะไม่นำข้อมูลอ่อนไหวของท่านไปใช้
- ข้อมูลทางเทคนิค เช่น การใช้งานและพฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ โดยบริษัทฯ อาจใช้คุกกี้เป็นเครื่องมือในการเก็บรวมรวมข้อมูล หมายเลขไอพี ชนิดของเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการเข้าถึง หน้าเว็บไซต์ที่เข้าเยี่ยมชม เวลาที่เยี่ยมชม เว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บไซต์ของบริษัทฯ และข้อมูลซึ่งระบุตำแหน่งพื้นที่ของท่านขณะที่ใช้งานเว็บไซต์ เป็นต้น
- ข้อมูลการตลาด และการสื่อสารต่างๆ เช่น การตั้งค่าของท่านในการรับข้อมูลการตลาด รวมถึงข้อมูลการติดต่อ การบันทึกเสียงกรณีที่ท่านเข้ามาติดต่อาง Call Center หรือผ่านทางช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ เป็นต้น
บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลโดยรวม เช่น ข้อมูลเชิงสถิติ ข้อมูลโครงการ ทั้งนี้ข้อมูลโดยรวมนั้นอาจได้มาจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูล ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลบางส่วนของท่านโดยทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลนิรนามเพื่อคำนวณอัตราของผู้ที่เข้าถึงเว็บไซต์ หรือทำข้อมูลเชิงสถิติต่าง ๆ
บริษัทฯ ตระหนักดีว่าข้อมูลที่นำมาใช้จะต้องไม่สามารถกลับมาระบุตัวตนได้ เมื่อใดก็ตามที่ข้อมูลสามารถกับมาระบุตัวตนได้ บริษัทฯ จะถือว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและต้องปฎิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
เว็บไซต์ของบริษัทฯ อาจนำพาท่านไปสู่หน้าเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่ของบริษัทฯ จากการเชื่อมต่อ ซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์อื่นสามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านได้ โดยบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดต่อการบริการ และเว็บไซต์เหล่านี้อาจดำเนินงานเป็นอิสระจากบริษัทฯ และอาจมีประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เป็นของตัวเอง บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นจากหน้าเว็บไซต์อื่นนั้นได้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของทุกเว็บไซต์ท่านได้มีการเข้าเยี่ยมชม
3.แนวทางการดำเนินการของบริษัทฯ
เนื่องจากในการดำเนินการของบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ในบางกรณี) โดยบริษัทฯ ขอรับรองและรับประกัน ดังต่อไปนี้
- บริษัทจะใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
- บริษัทมีระบบรักษาความปลอดภัยและคุ้มครองการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
- บริษัทจะดำเนินการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ
4.ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ให้นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีผลบังคับใช้กับการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้ใช้บริการ จากธุรกรรมและการให้บริการทุกกิจกรรมระหว่างผู้ใช้บริการกับบริษัทฯ
5.หลักการในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้หลัก 6 ประการดังต่อไปนี้
หลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | บริบทการดำเนินการของบริษัท |
ชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และโปร่งใส | บริษัทฯ ได้ใช้ รวบรวม จัดเก็บ เปิดเผยและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ ตามที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรม หรือตามที่เงื่อนไขหรือข้อกำหนดในสัญญา ข้อมูลดังกล่าวจะจัดเก็บในรูปแบบกระดาษและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของงานตามความยินยอมหรือสัญญา โดยการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยจะอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กฎหมายกำหนดและตามวัตถุประสงค์การใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งแก่ผู้ใช้บริการ ในขณะที่บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว |
วัตถุประสงค์การจัดเก็บ | บริษัทฯ จะใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้เก็บรวบรวมมาหรือตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามขอบเขตหน้าที่การงานตามที่ระบุไว้เท่านั้น |
การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น | บริษัทฯ จะใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น เว้นแต่กฎหมายระบุให้ดำเนินการเพิ่มเติม หรือใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยเพื่อป้องกันผลประโยชน์ได้เสียโดยชอบธรรมของบริษัทฯ |
ความถูกต้องของข้อมูล | บริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบให้ข้อมูลส่วนบุคคลมีความถูกต้อง ทันสมัย และสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้โดยเร็ว |
การจำกัดเวลาการเก็บข้อมูล | บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เท่าที่จำเป็นหรือตามระยะเวลาที่กฎหมายสำหรับวัตถุประสงค์นั้นๆกำหนด เว้นแต่ กรณีที่กฎหมายกำหนดให้จัดเก็บเพิ่มเติมหรือเพื่อป้องกันผลประโยชน์ได้เสีย โดยชอบธรรมของบริษัทฯ |
ความสมบูรณ์และการรักษาความลับ | บริษัทฯ จะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสำหรับข้อมูลที่บริษัทฯจัดเก็บ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทถูกเข้าถึงโดยไม่ชอบ สูญหาย หรือถูกทำลายโดยบุคคลภายนอกหรือถูกใช้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย |
6. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ รวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อประโยชน์ให้ดำเนินงานของบริษัทฯ หรือเพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูล เพื่อประโยชนในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทำงานของบริษัทฯ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฎิบัติตามกฎหมาย หรือกฎระเบียบข้อบังคับบริษัทฯ ทั้งที่ประกาศบังคับใช้แล้วหรืออาจประกาศบังคับใช้ในอนาคต และ/หรือ ประโยชน์อื่นใดในการประกอบธุรกิจและดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
ทั้งนี้การทำธุรกรรม กิจกรรม หรือ รายการใด ๆ ตามความประสงค์ของผู้ใช้บริการ และ/หรือ เพื่อให้บรรลุซึ่งจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อดำเนินการซื้อสินค้า หรือ บริการ อุปกรณ์ เครื่องจักร โปรแกรม ฯ ตามวัถตุประสงค์ของบริษัทฯ
- เพื่อดำเนินการทำสัญญาที่ท่าน มีกับบริษัทฯ หรือ ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การประเมินประสิทธิภาพของผู้ให้บริการ หรือ ดำเนินการในกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการให้ตามที่ท่านประสงค์ และตามที่บริษัทได้แจ้งไว้ต่อท่าน หรือมีเหตุผลอื่นใดตามกฎหมาย
- เพื่อดำเนินการตามสัญญา กับ คู่สัญญาที่ บริษัทได้ทำการจัดซื้อหรือจัดจ้าง หรือใช้บริการกับบริษัทฯ
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในกิจกรรมต่างๆ
- เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐมอบหมายให้แก่บริษัทฯ ดำเนินการ
- เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ เช่น การรักษาความสัมพันธ์กับท่าน การยกระดับมาตรฐานฝีมือการทำงานของบริษัทฯ และ การป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เป็นต้น
- เพื่อพัฒนาแผนการตลาด วิเคราะห์ข้อมูล ประเมินกระบวนการ การปรับปรุงและพัฒนาการผลิตหรือบริการ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในของบริษัทฯ
- เพื่อระบบรักษาความปลอดภัย และ ป้องกันการกระทำความตามผิดกฎหมาย ในโรงงาน สำนักงาน รวมถึง สถานที่ที่อยู่ในความดูแลของบริษัทฯ โดยใช้ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เมื่อมีการเข้า-ออกพื้นที่ ดังกล่าว
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมภายในของบริษัทฯ หรือ เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์บริษัทฯให้กับบุคคลบุคคลภายนอก ผ่านช่องทางสื่อสิ่งพิมพ์ หรือช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัทฯ โดยใช้ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่เก็บรวบรวมจากงานกิจกรรม งานประชุม หรือ งานสัมมนาต่าง ๆ ที่บริษัทฯ จัดขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบริษัทฯ เก็บรวบรวมได้จะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า
- ในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้เท่านั้น
- ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลผู้เยาว์ บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้เท่านั้น และไม่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น หรือทำการตลาด
- ในกรณีที่บริษัทฯ มีความประสงค์จะประมวลผลข้อมูลอ่อนไหว บริษัทฯ จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน หรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล
7.หลักเกณฑ์ทางกฎหมาย สำหรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผย – ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะไม่ใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ เว้นแต่กรณีที่เป็นการกระทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือมีกฎหมายหรือสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายให้สามารถดำเนินการได้ ซึ่งหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่บริษัทฯ จะใช้เพื่อรองรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังกล่าว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หลักเกณฑ์ทางกฎหมาย | ตัวอย่างสำหรับกรณีบริษัทฯ |
ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | ใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อใช้ปฏิบัติตามสัญญา หรือข้อกำหนดหรือเงื่อนไขใดๆ ที่กำหนดในสัญญา หรือแนวทางในการปฏิบัติตามคู่สัญญาของบริษัทฯ |
ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล | การเปิดเผยข้อมูลข้อมูลแก่หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ หรือ เมื่อมีคำสั่งศาล หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานรัฐ ในกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) ของบริษัทฯ และ บริษัทในเครือในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ ผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทฯ และประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ รักษาความปลอดภัย รวมถึงพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ หรือเพื่อกิจกรรมอื่นใดที่จำเป็นและเกี่ยวข้องโดยชอบด้วยฐานกฎหมายและฐานสัญญา
การบันทึกภาพหรือข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้บริการของบริษัทฯ ซึ่งเป็นโดยปกติธุระทั่วไป หรือ เพื่อป้องกันรักษาความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลความลับของบริษัทฯ |
8.หลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผย– ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว
(Sensitive Data)
บริษัทฯ จะไม่ใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ของผู้ใช้บริการ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้บริการ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีฐานทางกฎหมายรองรับให้สามารถดำเนินการได้ตามที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
หลักเกณฑ์ทางกฎหมาย | ตัวอย่างสำหรับกรณีบริษัทฯ |
เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม | การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เช่น ข้อมูลสุขภาพ หมู่เลือด หรือความเชื่อทางศาสนา แก่เจ้าหน้าที่พยาบาลหรือโรงพยาบาลเพื่อการรักษาชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้บริการ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการ ไม่มีสติไม่สามารถให้ความยินยอมได้ |
เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | การเปิดเผยชื่อ นามสกุล และรูปภาพของผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ใช้บริการ ได้เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ด้วยความยินยอมของผู้ใช้บริการ |
เป็นความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง | การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ ข้อมูลสุขภาพ หมู่เลือด หรือความเชื่อทางศาสนา แก่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานสาธารณสุขในกรณีที่เกิดการระบาดของโรคติดต่อในบริเวณที่ตั้งของบริษัทฯ หรือเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ |
เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ การศึกษาวิจัยทางวิศวกรรมศาสตร์ การก่อสร้าง หรือประโยชน์สาธารณะอื่นๆ | การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวิเคราะห์วิจัย เพื่อพัฒนาความรู้ทางด้าน การก่อสร้าง วิศวกรรมศาสตร์ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เช่นการประมวลผลข้อมูลผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น9.การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด |
9. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด
การใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด เท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานหรือกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ ด้วยวิธีการใดๆ ซึ่งอาจเป็นรูปแบบเอกสาร หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ หรือเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของบริษัทฯ เท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการ ได้รับทราบและให้ความยินยอมแก่บริษัทฯในการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการให้ความยินยอมทางเอกสาร ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือรูปแบบอื่นใดตามที่บริษัทกำหนด เพื่อใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ กำหนด นอกจากนี้ผู้ใช้บริการ ได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) อาทิเช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันในกรณีที่ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย จัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- ตามความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
- ตามความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ
- ตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นๆที่มิใช่บริษัทฯ
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ เช่น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประมวลกฎหมายแพ่ง และอาญา เป็นต้น
- ตามความจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้บริการ
- เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
- เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
10.การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ(Transfer to Third Country)
บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการของบริษัทเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงให้บริษัทฯ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ออกนอกประเทศไทยไปยังบุคคลหรือหน่วยงานที่อยู่ในประเทศอื่น หรือภายใต้เขตอำนาจกฎหมายของประเทศอื่น ไม่ว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศนั้นอาจถึงเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ในระดับเดียวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
11. ระยะเวลาการเก็บข้อมูล (Data Retention)
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่เกินระยะเวลาเท่าที่จำเป็นหรือระยะเวลาตามกฎหมายสำหรับวัตุถประสงค์ที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
12.สิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พนักงานหรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิตามกฎหมาย
สิทธิ | คำอธิบาย |
สิทธิเพิกถอนความยินยอม | หากผู้ใช้บริการ ไม่ประสงค์ให้บริษัทฯเก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองอีกต่อไป ท่านสามารถเพิกถอนความยินยอมได้ โดยการทำคำร้องแจ้งมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ข้อกำหนด ประกาศ หรือ ระเบียบกำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ และหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทฯ กำหนด |
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล | ผู้ใช้บริการ มีสิทธิที่จะตรวจสอบว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการใดกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมเอาไว้ รวมถึงมีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลดังกล่าวจากบริษัทฯ |
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง | บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ที่บริษัทเก็บรวบรวมมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการ สามารถขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลได้ หากผู้ใช้บริการเห็นว่าข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทไม่ถูกต้อง และบริษัทฯจะทำการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้องต่อไป |
สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล | ผู้ใช้บริการ มีสิทธิที่จะขอให้บริษัทฯ ทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัทฯ ทั้งนี้ เมื่อบริษัทฯได้รับคำขอจากผู้ใช้บริการ บริษัทฯ จะทำการตรวจสอบคำขอและดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนโดยเร็ว ทั้งนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์และมาตรการที่กฎหมายกำหนด |
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล | ผู้ใช้บริการ มีสิทธิที่จะขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัทฯ |
สิทธิในการขอให้โอนหรือส่งข้อมูล | ผู้ใช้บริการ มีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ในกรณีที่บริษัทฯได้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงขอให้บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปให้บุคคลภายนอก เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัท |
สิทธิในการคัดค้าน | ผู้ใช้บริการ มีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ในกรณีที่พบว่ามีการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัททั้งนี้ การที่พนักงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ ไม่ยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านให้บริษัทดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถรับบริการจากบริษัทฯได้ หรืออาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
ทั้งนี้ การที่ผู้ใช้บริการ ไม่ยินยอมให้บริษัทฯใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ หรือผู้ใช้บริการให้บริษัทดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ อาจส่งผลให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากบริษัทฯได้ หรืออาจทำให้บริษัทฯไม่สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอของผู้ใช้บริการ ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้สามารถกระทำได้หรือตามคำสั่งของหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจ คำสั่งศาล หรือในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอจะก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัทฯ หรือการบริหารจัดการภายในของบริษัทฯ ได้
ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบนั้น บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการดำเนินการลบข้อมูลของผู้ใช้บริการออกจากระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการตกลงรับทราบว่าบริษัทฯ อาจยังคงบันทึกหรือทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ หรือระบบสำรองของบริษัทฯ เพื่อสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่องหรือขัดข้องแก่ระบบของบริษัทฯ รวมถึงเพื่อเก็บเป็นพยานหลักฐานหรือเพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การใช้สิทธิของผู้ใช้บริการ จะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด ประกาศ และระเบียบที่บริษัทกำหนด ซึ่งจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทและหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทกำหนด โดยในการใช้สิทธิข้างต้น ผู้ใช้บริการ จะต้องส่งคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 14 ของประกาศฉบับนี้
13.การแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการ ทราบถึงการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ขอความอนุเคราะห์ผู้ใช้บริการกรณีแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 14 ของประกาศฉบับนี้ภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการป้องกันแก้ไขของบริษัทฯ จากการละเมิดดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการ
14.เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หากผู้ใช้บริการประสงค์จะใช้สิทธิตามที่กำหนดในข้อ 12 หรือแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรายละเอียดด้านล่างนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นางสาวสุเนตรา สถาปนศิริ
เลขที่ 32/24 ชั้น 3 อาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ 02-2601181
โทรสาร 02-2601182
Email: DPO@stpi.co.th
15.การปรับปรุงนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ มีนโยบายและโปรแกรมรักษาความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของ บริษัทฯ และป้องกันการสูญหาย ทำลาย เข้าถึง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมิชอบ โดยบริษัทฯ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกในความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล และการรับผิดชอบต่อการดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว
16.ติดต่อเรา
เพื่อประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการแก่พนักงานและผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อปรับเปลี่ยนและเหมาะสมตามสถานการณ์ โดยอาจไม่ได้แจ้งให้ท่าน ทราบล่วงหน้า ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอให้ท่าน ให้ความสำคัญกับนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
17. ข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ใช้บริการสามารถติอต่อสอบถามเรื่องเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้หรือการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 14 ของประกาศฉบับนี้