PRESS NEWS

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2566 บริษัทฯ ได้ส่งคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคม CSR (Corporate Social Responsibility) ประจำปี 2566

Contract Signing Ceremony between Woodside and STP&I on December 13, 2023.

บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) (“STP&I”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2518 และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานให้ประสบความสำเร็จ คือ “เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกฝ่าย” ด้วยการลงทุนควบคู่ไปกับ พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ขนาด 600 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาว ด้วยเงินลงทุนรวมประมาณ 960 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นโครงการพลังงานลมโครงการแรกใน สปป.ลาว เพื่อส่งออกและขายไฟฟ้าไปยังเพื่อนบ้าน ประเทศเวียดนาม นับว่าเป็นโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็น Platform สำหรับการเชื่อมต่อในระดับภูมิภาคและการลดคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง นับได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและและเพิ่มมูลค่าในธุรกิจด้านพลังงานสะอาดให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ STP&I ซึ่งเป็นเส้นทางสู่โลกแห่งความแข็งแรง และเป็นโลกที่น่าอยู่สำหรับปัจจุบันและสำหรับชนรุ่นหลังต่อไป เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 STP&I ร่วมกับ บริษัท อิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม จำกัด (“IES”) ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon และผู้ถือหุ้นรายอื่น ได้แก่ ACEN Renewables International

STP&I มีนโยบายและความมุ่งมั่นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยปรับเปลี่ยนสู่ Green Construction เต็มรูปแบบ โดยนำผลิตภัณฑ์เหล็กเอชบีม “Green Steel Series” จากบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ที่ผลิตเป็นล็อตแรก จำนวน 227 ตัน มาใช้สำหรับโครงการ Golden Pass LNG Export Project ประเทศสหรัฐอเมริกา  

บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล Forbes Asia Best Under A Billion Award โดยคุณมาศถวิน ชาญวีรกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท เป็นตัวแทนในการรับรางวัลเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็น 1 ใน 200 บริษัทจากบริษัททั่วเอเชียและเป็น 1 ใน 9 บริษัทจากประเทศไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้และบริษัทฯ จะมุ่งมั่นในการพัฒนาให้มากขึ้นต่อไปในอนาคต

โครงการประกอบ module โรงผลิตก๊าซแอลเอ็นจี Ichthys Onshore LNG Facilities ซึ่งบริษัท STP&I กำลังดำเนินโครงการอยู่ในขณะนี้ ได้มีความคืบหน้าของโครงการในหลายส่วน งานแปรรูปโครงสร้างเหล็กและท่อ (steel fabrication and pipe fabrication) ที่โรงงานชลบุรี ระยอง และศรีราชา ได้ดำเนินงานแล้วเสร็จกว่า 50% โดยชิ้นงานที่แปรรูปแล้วได้ถูกส่งไปที่โรงประกอบแหลมฉบังแล้วเป็นส่วนใหญ่ สำหรับงานประกอบ module ที่โรงประกอบแหลมฉบังก็ได้เริ่มดำเนินการมาระยะหนึ่ง มีความก้าวหน้าของงานประมาณ 15% จำนวนคนที่กำลังปฏิบัติงานในโครงการนี้ขณะนี้มีมากกว่า 10,000 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 12,000 คนในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะมีปริมาณงานสูงที่สุดของโครงการนี้ STP&I ยังรักษาสถิติความปลอดภัยในการทำงานโดยไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน โดยสถิติของโครงการนี้ในขณะนี้มากกว่า 20 ล้านชั่วโมงทำงานแล้ว

โครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซสำเร็จรูป Queensland Curtis LNG Project ซึ่งดำเนินโครงการ ณ โรงประกอบโมดูล บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ได้มีการลำเลียงชิ้นงานสุดท้ายของโครงการฯ น้ำหนักประมาณ 1,292 ตัน ลงเรือบรรทุก เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งจะถูกส่งไปติดตั้งยังไซต์งานที่บริเวณ Curtis Island ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียต่อไป.

โครงการประกอบโรงงานสำเร็จรูป สำหรับแยกก๊าซแอลเอ็นจี Ichthys Onshore ที่บริษัท STP&I ได้เซ็นต์สัญญากับบริษัท JKC Ichthys LNG Joint Venture เมื่อต้นปี 2555 นั้น ได้เริ่มดำเนินโครงการตามแผนงานและมีความคืบหน้าของโครงการในหลายส่วน โดยโรงงานเอสทีพี แอนด์ ไอ ชลบุรี และระยอง ได้เริ่มดำเนินการแปรรูปโครงสร้างเหล็ก ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2556 และมีความก้าวหน้าประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของงานแปรรูปเหล็กทั้งหมดของโครงการนี้ คาดว่างานแปรรูปโครงสร้างเหล็กจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557 สำหรับงานแปรรูปท่อนั้น ทางโรงงานเอสทีพี แอนด์ ไอ ศรีราชา ได้เริ่มดำเนินการ first cut เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะสิ้นสุดงานแปรรูปท่อประมาณต้นปี 2558 ขณะเดียวกัน ที่โรงประกอบแหลมฉบังขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงาน Foundation & Support เพื่อรองรับตัวโมดูลที่จะเริ่มงานประกอบในเดือนกันยายน หลังจากได้รับโครงสร้างเหล็กและท่อที่ส่งมาจากโรงงานชลบุรี ระยอง และศรีราชา